ผมรักในหลวงที่สุดในโลก

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พ่อกลุ่มนี้มีความจงรักภักดีต่อ "พระเจ้าแผ่นดิน"


ในเดือนนี้มีหลายวาระด้วยกัน ทั้งวันพ่อแห่งชาติ วันรัฐธรรมนูญ วันส่งท้ายปีเก่า
เริ่มจากวันพ่อแห่งชาติก่อน ในที่นี้ขอใช้ประโยคว่า มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2554 หลายหน่วยงาน หลายองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเหล่าทัพก็ได้ทำหน้าที่ของตนไปด้วยดีแล้ว ในภาคประชาชนเองของกลุ่ม ตำบลทุ่งขมิ้น ก็ได้จัดตั้งกลุ่มแกนนำในหลายอาชีพ ทำให้เกิดกลุ่มก้อนเล็กๆ ของชุมชนเพื่อนำวิถีชุมชนมาเรียนรู้ ต่อยอด บำรุงรักษา เพื่อให้ลูกหลานของชุมชนมีแนวทางใหม่ ในการก้าวเดินบนวิถีชีวิตควบคู่การเรียนจากที่โรงเรียน
ในโอกาสนี้ขอยกเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ ของผู้ที่เรียกแทนตนต่อลูกด้วยคำว่า พ่อพ่อในที่นี้กล่าวคือ บุคคลที่มีภรรยาและมีบุตร เป็นผู้ชาย เราเรียกว่า พ่อ คำสามัญ ที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป  และนำไปใช้ในเชิงแสดงความรัก ความจงรักภักดี ต่อ พระเจ้าแผ่นดินจนเมื่อนักการเมืองหลายคนวิจารณ์คำว่า พ่อ ในลักษณะเบี่ยงเบนประเด็น ตลอดจนกลุ่มคน หลายกลุ่มได้ใช้  คำคำนี้ สร้างความแตกแยกทั้งความคิด ความเชื่อ ส่งผลให้ผู้เป็นพ่อ ที่ทุกคนรู้จัก เคารพรัก กราบไหว้ ยกให้เป็นพ่อ และเรียกออกจากปากของตน พ่อพระองค์นั้นคือ พระเจ้าแผ่นดิน เราย้อนเวลากลับหลังไปไม่ได้เสียแล้ว แต่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นตามหน้าสื่อต่างๆ ก็มุ่งไปให้ทิศทางเดียวกันว่า โลกน่าจะแตก หรือ เกิดภัยพิบัติขั้นรุนแรง มีบุคคลที่ทำหน้าที่พ่อของลูกๆ กลุ่มหนึ่ง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่พ่อมีชีวิตและเลี้ยงลูกจนเติบใหญ่มีความรู้ มีวิชา ประกอบสำมาชีพได้ ก็เพราะ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้ และเหล่าบรูพกษัตริย์ทุกพระองค์ ทรงปกป้อง คุ้มครองให้พื้นดินถิ่นนี้คือประเทศไทย  ในโอกาสนี้ก็เสนอแนวคิดของพ่อที่ทำอยู่ทำกิน เลี้ยงลูก สอนลูกให้เป็นคนดีของสงคม ก็ขอนำมาฝากกันครับ เดือนหน้า ๒๕๕๕ เตรียมพบกับ การสร้างทางสายใหม่ให้ลูกหลานกัน ทางที่ดี ทางที่เดินโดยมีภูมิคุ้มกัน

คุณกิตติวัฒน์ ประธานสภาองค์กรชุมชน ตำบลทุ่งขมิ้น ผู้เต็มไปด้วยพลังจิตอาสา มุ่งขับเคลื่อนภาคประชาชนให้ได้มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทของตน อีกยังสามารถนำมาช่วยเหลือชุมชนได้
"สำหรับลูกไหน จบมีงานทำหมดแล้ว ที่ผ่านมาก็บอกเขาว่า จะต้องเป็นคนดี และพร้อมช่วยเหลือสังคมได้บ้าง"

พี่ถาวร ผู้อนุรักษ์รักษาขนมธรรมเนียม ศิลปะ วัฒนธรรม และ แกรูปหนังตลุง
"ผมบอกลูกเสมอว่า ของดีๆ บ้านเราหายไปเยอะแล้ว พ่อไม่ทำ ลูกไม่สานต่อ ต่อไป ลูกหลานจะเข้าใจในวิถีที่ให้ตนได้มีชีวิตอยู่มาอย่างไร"
ลุงนา ธนา แห่งบ้านนา ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นงานเล็กงานใหญ่ คนนี้ไม่ต้องอธิบาย
"ลูกเรียนเรียนไป พ่อจะหาจนพ่อหมดแรง แต่ขอให้จบมาและเป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว"
พี่น้อย น้ำจิต น้ำใจ เกินตัวจริงๆ เงียบนิ่งพูดน้อย ในฐานะพ่อดีเด่นประจำปีนี้ (ผมรู้หลังจากสัมพาย์กเร็จ)
"ผมเปิดโอกาสให้ลูกทุกเรื่อง แต่ลูกต้องรู้จักการทำตัวให้ดี อย่าเป็นที่รังเกียจของผู้อื่น และให้เป็นคนดี"

สมัย หนุ่มคนนี้ ต.ทุ่งขมิ้นน้อยคนที่ไม่รู้จัก งานบุญต่างๆ หนุ่มคนนี้ เสมอเหมือนเจ้าภาพตลอดทุกงาน
"ผมสอนและเตือนลูกว่า ตนเองมีหน้าที่อะไร เรียนก็ต้องเรียน เล่นก็เล่น"

ช่างหมา (พี่เค้าชื่อหมามุ๋ย) แต่คนเรียกแกอย่างนั้น คนนี้ผมรู้จักจากปากต่อปาก ผมรู้จักคนนี้ทำให้เข้าใจคำว่า "ผู้มีวิชาชีพ" ได้เต็มปากเต็มคำ
"ผมบอกลูกว่า เราจะเก่ง จะรวย จะอะไรไม่สำคัญ เท่ากับเรารู้จักเสียสละและแบ่งบัน เราเห็นแก่ตัวไม่ได้"


สำหรับผมคนสุดท้ายในฐานะผู้ประสานงานสภาองค์กรชุมชน
"บอกลูกว่า ของรอบบ้านคือสิ่งที่ทำให้เจ้าได้เรียนมีการศึกษา จงมองวิถีนี้แล้วเดินไปกับพ่อพร้อมกัน"